ผลสำรวจชี้ ชาวอเมริกันหันมาใช้ VPN ป้องกันการหลอกลวงและการแฮ็กออนไลน์
ตั้งแต่มีนาคมปี 2563 มีการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับส่วนลดเพื่อใช้งาน Virtual Private Network หรือ VPN กันมากขึ้น พร้อมกันกับที่ชาวอเมริกันพยายามหาวิธีที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยกับการใช้งานออนไลน์
CouponFollow บริษัทผู้สร้างเครื่องมือออกคูปองในนิวยอร์กได้เก็บข้อมูลสำรวจจากผู้ใหญ่อเมริกัน 1,666 รายในช่วงก่อนสถานการณ์ไวรัส COVID-19 และอีก 1,834 รายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2564 เพื่อศึกษาว่าชาวอเมริกันมีความคิดเห็นอย่างไรต่อความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
ผลสำรวจพบว่า ชาวอเมริกัน 69% กังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลเมื่อใช้งาน Wi-Fi สาธารณะ และ 64% รู้สึกกังวลเมื่อใช้อินเทอร์เน็ตที่บ้าน นอกจากนี้ยังมีชาวอเมริกัน 65% กังวลว่าอาจมีข้อมูลทางการแพทย์หรือการเงินถูกแชร์หรือขายโดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
ประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ก็เป็นเรื่องที่ชาวอเมริกันกว่าครึ่งหนึ่งกังวล (47%) ขณะใช้งาน Wi-Fi สาธารณะ ส่วนอีก 30% มีความเป็นห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวขณะใช้งานอินเทอร์เน็ตที่บ้าน
Americans turn to VPNs to prevent online fraud and hacking zdnet Image credit: CouponFollow via ZDNet ชาวอเมริกันก็กังวลเรื่องการหลอกลวงต้มตุ๋นและการแฮ็กทางออนไลน์ ซึ่งมีจำนวน 1 ใน 3 ที่รู้จักคนที่เคยถูกแฮ็กหรือถูกขโมยบัญชีโซเชียลมีเดีย อีกทั้งยังเคยมีประสบการณ์หรือรู้จักกับผู้ที่ถูกขโมยพาสเวิร์ดด้วย
แม้ว่าจะมีชาวอเมริกัน 35% ใช้ VPN แต่มีรายงานว่า 33% ของกลุ่มสำรวจไม่รู้จักว่า VPN คืออะไร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ แม้แต่ 40% ของผู้ใช้งาน VPN เองก็ไม่รู้ว่า VPN หมายถึงอะไร
Americans turn to VPNs to prevent online fraud and hacking zdnet Image credit: CouponFollow via ZDNet แต่การใช้งานอินเทอร์เน็ตในที่ทำงานไม่ได้แสดงตัวเลขความกังวลเท่าใดนัก อาจเป็นเพราะซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสและการปกป้อง firewall ที่นายจ้างนำมาใช้บนอุปกรณ์ก็เป็นได้ หรืออีกเหตุผลหนึ่งก็คือประเภทของเว็บไซต์ที่ใช้งานบนอุปกรณ์ในที่ทำงานด้วย ดังที่ในปี 2563 มีชาวอเมริกัน 12% เริ่มใช้งาน VPN และ 21% ติดตั้ง VPN เพื่อใช้งานสำหรับการทำงานที่บ้าน
ชาวอเมริกันถึง 35% ใช้งาน VPN อยู่แล้วเพื่อการใช้งานเว็บทั่วไป (45%) เข้าถึงงาน (45%) หรือช็อปปิ้งออนไลน์ (21%) มีเพียง 12% ที่ใช้สำหรับ torrenting หรือแชร์ไฟล์ P2P
เนื่องจากมีความพยายามในการแฮ็กและการละเมิดเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น ชาวอเมริกันจึงระมัดระวังในการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ดังนั้น เราในฐานะผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตก็ควรยิ่งต้องระมัดระวังการใช้งานออนไลน์มากขึ้นด้วยเช่นกันเพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อข้อมูลรั่วไหลรายต่อไป
ที่มา : https://www.adpt.news/2021/05/12/americans-turn-to-vpn-to-prevent-online-fraud-and-hacking/?fbclid=IwAR3eKzHG3kPdnzwznBt84CYXKWmJwrH0NalcyUgjZGbe2f_vyeAZVAZXng0
Relate topics
- ฉีดวัคซีนโควิดคนละยี่ห้ออันตรายหรือได้ผล?
- เซี่ยงไฮ้เริ่มฉีดวัคซีนแบบเข็มเดียวจาก 'CanSino'
- สธ. เปิด Call center 180 คู่สาย ตอบปัญหานัดฉีดวัคซีนโควิด ไลน์หมอพร้อม
- สตาร์ทอัพที่เปลี่ยนมลพิษที่สุดในโลกให้เป็นผลกำไรสีเขียว
- ไปรษณีย์ไทยเตือนผู้ใช้ระวังมิจฉาชีพแอบส่งข้อความหลอกลวง
- กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ชี้แจงประเด็นเรื่อง วัคซีนทางเลือกต้องจ่ายแพงกว่า 2,000 บาท เพราะต้องเสียภาษี 2 ครั้ง เป็น 14% ที่เผยแพร่สู่สังคมออนไลน์ จาก
- “สมอ.” ฟัน “Shopee”-ผู้จำหน่ายเครื่องหรี่ไฟ 6 รายขายสินค้าไร้ มอก.
- บริษัทในไทยถูก Ransomware โจมตี แฮกเกอร์ได้ข้อมูลลูกค้า AXA และกรุงไทย-แอกซ่า
- แพทย์ผิวหนังเผย อาหารเสริม วิตามิน ไม่มีหลักฐานทางวิชาการว่า รักษาโรคผมบางได้จริง
- เตือนอย่าใช้เมทิลแอลกอฮอล์ เป็นส่วนผสมแอลกอฮอล์เจล