สมาคมผู้บริโภคสงขลา

Edited - อาจกล่าวได้ว่าการมาถึงของสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตพีซี และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่กำลังทยอยเปิดตัวนั้นมีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพในการทำงานของคนเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองพึงระวัง เหมือนในกรณีล่าสุดที่ทีมงานประสบกับตัวเอง เมื่อพาลูกไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนตามกำหนดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

สิ่งที่สังเกตได้จากการไปโรงพยาบาลในครั้งนี้คือ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลนี้แทบทุกคนมีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน หรือไม่ก็แท็บเล็ตพีซีใช้ เวลาว่างก็จะก้มหน้างุดอยู่กับโต๊ะทำงาน จิ้มนู่นนี่ไปตามเรื่อง ซึ่งก็คงไม่มีปัญหาอะไรหากประสิทธิภาพในการทำงานไม่บกพร่องตามไปด้วย

แต่มันไม่ใช่เช่นนั้น เพราะตัวทีมงานและลูกที่ไปเข้ารับบริการเจอกับความบกพร่องมากมายหลายประการ เช่น ต้องรอนาน (เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องรอเบิกแฟ้มประวัติคนไข้ ซึ่งพอแฟ้มมาเจ้าหน้าที่ก็ไม่ทันสังเกตเพราะเอาแต่จิ้มไอโฟน จนทีมงานต้องเดินเข้าไปติดต่อที่เคาท์เตอร์เอง) พิมพ์เอกสารกำกับยาผิด ลืมใบรับรองแพทย์ เขียนใบรับรองแพทย์ผิด ตลอดจนมีการแก้เอกสารต่าง ๆ มากมายที่พิมพ์ผิดพลาด ทำให้ต้องเสียเวลาไปเกือบ 3 ชั่วโมงกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนอย่างช้า 1 ชั่วโมงก็ได้กลับบ้านแล้ว

สิ่งที่ทำให้กังวล จนต้องบอกเล่าเรื่องดังกล่าวกับท่านผู้อ่านก็เพราะว่า เรากำลังใช้บริการทางการแพทย์ ซึ่งความบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจหมายถึงชีวิต ๆ หนึ่งได้เลยทีเดียว

ลองคิดดูว่า ถ้าหากเจ้าหน้าที่บกพร่อง พิมพ์เอกสารกำกับยาผิดพลาด แล้วคนไข้ใช้ยาผิดตามไปด้วย อะไรจะเกิดขึ้น และยิ่งหนักไปใหญ่ถ้าคนที่ได้รับยาเป็นเด็ก ลูก ๆ ของเราเอง ความเสียใจที่จะเกิดกับพ่อแม่จะมีมากขนาดไหนคงไม่ต้องบอกกัน

การแก้ไขอาจทำได้ ถ้าหากผู้บริหารของโรงพยาบาลต่าง ๆ มีความจริงใจ และใส่ใจกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานของพนักงานให้มากกว่านี้ หรืออาจออกกฎไม่ให้มีการใช้สมาร์ทโฟนในระหว่างการทำงานก็คงช่วยได้

แต่นั่นไม่เท่ากับคนเป็นพ่อแม่ค่ะ ที่ต้องระวัง และใส่ใจกับทุกเรื่องของลูกให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะในยุคที่คนเราไม่มีสมาธิ มัวแต่เอาใจไปจดจ่อกับเรื่องภายนอกมากขึ้นทุกที ๆ อย่างนี้ อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ค่ะ

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์  7 ตุลาคม 2555